ภายหลังจากมิได้ลงสู่สนามนานถึง 17 เดือนหรือเกือบจะปีครึ่งจนกระทั่งแฟนบอลแมนยูแทบลืมหน้าไปแล้ว แต่ว่าในขณะนี้ ไทเรลล์ มาลาเซีย หายเจ็บรวมทั้งพร้อมกลับมาลงในสนามช่วย "ซาตานแดง" อีกรอบ
สตาร์ชาวฮอลล์แลนด์ วัย 25 ปีได้รับบาดเจ็บหนักจนถึงพลาดลงไปในสนามให้กับกลุ่มชุดใหญ่ตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2023 ข้างหลังเข้ารับการผ่าตัดศรีษะหัวเข่าเนื่องจากว่าเจ็บหนักขณะที่ช่วยกลุ่มชาติเนเธอร์แลนด์ แพ้ วัวทวีปเอเชีย 2-4 ในรอบรองชนะเลิศ ศึกเนชั่นส์ ลีก
มาลาเซีย มิได้ลงเล่นตลอดฤดู 2023/2024 ข้างหลังเข้ารับการผ่าตัดรอบสองจากการบาดเจ็บที่ชั่วร้ายกว่าหนแรก ซึ่งทำให้แผนคัมแบ็กในก.พ.จะต้องพังทลายหมดรูป แต่ว่าเวลานี้ได้กำเนิดแนวคิดคบคิดสุดแปลกข้างหลังเขามิได้โพสต์อะไรเลยในสื่อสังคมออนไลน์
อย่างไรก็แล้วแต่ช่วงนี้ มาลาเซีย กลับมาลงในสนามให้ แมนยู ได้แล้ว ข้างหลังลงเล่นไป 45 นาทีในครึ่งแรกเกมชุดอายุต่ำลงยิ่งกว่า 21 ปี ที่เจอกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ซึ่ง "ผีแดง" แพ้ยับ 1-4 ในรายการ อีเอฟแอล โทรฟี้ เมื่อคืนนี้วันอังคารที่ 12 เดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้าที่ผ่านมา
เดี๋ยวนี้นักฟุตบอลเลือดชาวดัตช์เปิดใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ชีวิตในตอนบ้านพักรักษาตัว รวมทั้งการที่จำต้องเข้ารับการป้องกันผู้เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งความยากแค้นในเรื่องปัญหาด้านครอบครัวที่จะจำต้องต่อกร นอกเหนือจากนั้นเจ้าตัวยังอธิบายเกี่ยวกับกระแสข่าวลือแปลกๆมากมายก่ายกอง เป็นต้นว่าเสียชีวิตไปแล้ว ฯลฯ
มาลาเซีย บอกว่า "ไม่ ไม่เป็นความจริงเลย ไม่เลย ผมก็แค่เข้ารับการบูรณะร่างกาย โดยยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่ฮอลแลนด์ ผมได้อยู่สนิทสนมกับครอบครัวผม ด้วยเหตุนี้ผมมีเพียงแค่ฝึกฝน, ครอบครัว, นอน, ฝึก, ครอบครัว, นอน วนเวียนอย่างนี้ทุกวี่วัน นั่นสิ่งเรื่องเดียวที่ผมทำมาตลอดในตอนนั้น"
เวลาเดียวกัน มาลาเซีย ไม่สนใจใยดีเกี่ยวกับข่าวโคมลอยแปลกๆในโลกอินเตอร์เน็ต เพราะว่าเขาไม่อยากใช้เวลาไปกับสื่อโซเชียล แล้วก็ได้ยินเรื่องกลุ่มนี้ผ่านจากการถามไถ่ของมิตรสหายกับครอบครัวเพียงเท่านั้น
"อย่างแรก ผมไม่ใช่ผู้ที่ติดโซเชียลมากสักเท่าไรนัก หากไม่ใช่พี่น้องหรือแม่ของผมส่งประเด็นนี้มาให้ผมมอง ผมก็อาจจะไม่รู้จักอะไรเลย มีเวลามากไม่น้อยเลยทีเดียว ผ่านไปอาทิตย์ภายหลังที่ผมได้รับรู้ว่าพวกเขากล่าวเรื่องนู้นหัวข้อนี้ ตราบเท่าที่ครอบครัวของผม และก็ผมทราบว่าผมเป็นคนดี มันก็พอเพียงแล้ว สิ่งจำเป็นที่สุดก็คือผมทราบดีว่าผมเป็นคนดี
ที่สำคัญ มาลาเซีย ย้ำว่าเขามีเรื่องมีราวสำคัญมากกว่าที่จำต้องจัดแจงภายหลังที่ แซนรอย พ่อมีขึ้นเกล้าล้มป่วยอย่างมาก "มันค่อนข้างจะยากลำเค็ญ เพราะว่าผมไม่ใช่ผู้ที่ถูกใจบอกเรื่องเหล่านี้ แต่ว่าบิดาของผมเจ็บป่วย ท่านไม่สามารถที่จะเดินได้อีกต่อไป สำหรับครอบครัวผม มันทำให้เกิดผลกระทบเป็นอย่างมาก บางโอกาสมันยังคงเจ็บ"
ครอบครัวของ ตัวรุกแมนยู จำต้องเจอกับเรื่องสุดสลดเมื่อย่าเสียชีวิตในธันวาคมปีที่ล่วงเลยไป ซึ่งเกิดขึ้น 6 ปีข้างหลังเขาสูญเสียปู่ "สำหรับผมท่านเปรียบเทียบเสมอแม่ เป็นแม่ผู้ที่สองของผม ผมดำเนินชีวิตอยู่ตรงนั้นสองปี"
"ผมอยู่ตรงนั้นทุกวี่ทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่ผมเล่นในฮอลแลนด์ ภายหลังการซ้อมผมจะไปตรงนั้น ครั้งใดก็ตามผมกลับไปที่ฮอลแลนด์ อย่างแรกที่ผมทำก็คือแวะไปเยี่ยมท่าน เป็นอย่างแรกที่ผมทำมาตลอด"
ช่วงนี้นักฟุตบอลกำลังพบเจอกับความท้าที่สำคัญมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นการแย่งตำแหน่งตัวจริงในยุคสมัยใหม่ที่ รูเบน อโมขอบ ที่ปรึกษาชาวโปรตุๆกีส เข้ามาจับบังเหียน โดย มาลาเซีย พูดว่า "ผมศึกษาเรื่องความทรหดอดทน พวกเราไม่ต้องรีบ ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังพอดีวันดีคืน เบาๆก้าวไปครั้งละก้าว"
มาลาเซีย เข้ารับการดูแลและรักษาตัว แล้วก็บากบั่นที่จะฟื้นฟูร่างกายให้ฟิตบริบูรณ์ที่สุด โดยนักฟุตบอลเห็นด้วยว่าการบาดเจ็บแม้ว่าจะชั่วร้ายแต่ว่าก็ทำให้ได้ประสบการณ์มาก "ผมไม่มีอะไรจำต้องเศร้าใจ ทุกประสบการณ์ แม้ว่าจะเป็นความผิดหวัง มันเป็นบทเรียน ผมไม่มีอะไรจะต้องเปลี่ยนสิ่งกลุ่มนี้"
หนึ่งในเรื่องที่ทำให้ มาลาเซีย ปลื้มปิติมากมาย มันก็คือการได้รับคำเชิญชวนจากสหายร่วมกลุ่ม โดยยิ่งไปกว่านั้น กาเซมีโร่ ที่อยากให้เขาเดินขึ้นไปรับโทรฟี้แชมป์เอฟเอ คัพ ร่วมกับกลุ่ม ข้างหลังปราบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเวมบลีย์ "แน่ๆว่า ผมต้องการอยู่ในสนามเพื่อเป็นอย่างยิ่งหัวใจให้กับทุกคน"
"แม้กระนั้นสำหรับผมเรื่องที่ยากที่สุดก็คือการขึ้นไปอยู่ที่ตรงนั้นร่วมกับพวกเขา (ตอนเดินขึ้นไปรับถ้วยแชมป์) เนื่องจากผมมิได้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกลุ่มตลอดทางที่กลุ่มก้าวไปถึงจุดนั้น ผมแบบว่า -ขออยู่ที่ตรงนี้ รวมทั้งมองทุกคนเป็นสุขก็พอแล้ว จากนั้นก็ไปพบกับพวกเขาที่ห้องแต่งตัว-"
"เขา (กาเซมีโร่) พูดว่า - ไม่เอาน่า นยจำเป็นต้องขึ้นไปอยู่ที่ตรงนั้นด้วย- และก็ถ้าหากผู้ที่มีประสบการณ์อย่างนั้นบอกกับท่านก็ควรจะยอมรับฟัง พวกเขาบอกว่า -ในที่สุดนายก็ยังคงเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของกลุ่ม- ผมเข้าไปในห้องแต่งตัวตลอดทั้งฤดูกาล และก็ได้มองเห็นทุกๆอย่าง พวกเขารู้ดีว่ามันยากเพียงใดที่ผมจะต้องทำงานมากวันแล้ววันเล่าสำหรับการกลับมาสู่กลุ่ม ด้วยเหตุผลดังกล่าวพวกเขากล่าวว่าผมเหมาะสมได้รับสิ่งนี้ร่วมกับทุกคน"
นอกเหนือจากนั้น มาลาเซีย ยังได้เล่าประสบการณ์สุดถูกใจในเวลาที่ กาเซมีโร่ มอบเหรียญแชมป์เอฟเอ คัพให้กับเขา และก็ไม่ยอมรับที่จะเอามันคืน "ก็อย่างที่ผมกล่าวเอาไว้ที่ผ่านมา ถ้าเกิดเขามอบสิ่งนี้ให้กับคุณ คุณก็จะต้องฟัง รวมทั้งก้มรับมันไว้!"
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa
|